พ่อเมืองลำพูน ร่วมร่วมงานทำบุญฉลองสมโภช เปิดถนนต้อนรับวัดใหม่ วัดพระธาตุดอยเงือก ทำบุญบ่อน้ำ กุฏิ ศาลาการเปรียญ โรงครัว เสนาสนะ และร่วมสร้างพระธาตุเจดีย์ ครูบาอภิชัยขาวปี
พ่อเมืองลำพูน ร่วมร่วมงานทำบุญฉลองสมโภช เปิดถนนต้อนรับวัดใหม่ วัดพระธาตุดอยเงือก ทำบุญบ่อน้ำ กุฏิ ศาลาการเปรียญ โรงครัว เสนาสนะ และร่วมสร้างพระธาตุเจดีย์ ครูบาอภิชัยขาวปี ณ วัดพระธาตุดอยเงือก ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
ณ วัดพระธาตุดอยเงือก ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายวิวัฒน์ จันทร์โอภาส นายอำเภอลี้ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ร่วมงานทำบุญฉลองสมโภช เปิดถนนต้อนรับวัดใหม่ วัดพระธาตุดอยเงือก ทำบุญบ่อน้ำ กุฏิ ศาลาการเปรียญ โรงครัว เสนาสนะ และร่วมสร้างพระธาตุเจดีย์ ครูบาอภิชัยขาวปี ซึ่งมีพิธีทำบุญฉลองสมโภชระหว่างวันที่ 12 – 14 มีนาคม 2564 มี พระนภัส ชยธมฺโม เจ้าอารามวัดพระธาตุดอยเงือก ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ร่วมกับ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมกันปลูกต้นโพธิ์ เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวและสร้างความร่มรื่นให้แก่วัดในอนาคต และได้กราบสักการะหลักเสากุฏิเก่า ที่ยังคงหลงเหลือเพียง 1เสา ของครูบาเจ้าอภิไชยขาวปี ที่มาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ณ บริเวณกำแพงหินที่ดอยเงือกแห่งนี้อีกด้วย
พระนภัส ชยธมฺโม เจ้าอารามวัดพระธาตุดอยเงือก เผยว่า ดอยเงือกตามคำบอกเล่าว่ามีพญานาคอาศัยอยู่ที่ดอยแห่งนี้ คำว่า “เงือก” นั้นเป็นภาษาเหนือ ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยภากลางจะหมายถึง “พญานาค” วันไหนาคออกจากดอยลุกนี้ลอยไปที่แม่น้ำลี้ บริเวณดอยพระเจ้า จะมีหมอกปกคลุมแล้วฝนจะตก หลักจากนั้นพญาเงือกจะลงเล่นน้ำทำให้ฝายกั้นน้ำของชาวบ้านในบริเวณลำห้วยที่ขวางทางพญาเงือกแตกเสียหาย ทำให้ชาวบ้านเชื้อว่าดอยลูกนี้เป็นที่อยู่ของพญานาคจึงได้ตั้งชื่อดอยลูกนี้ว่า “ดอยเงือก” ดอยเงือกแห่งนี้ ครูบาเจ้าอภิไชยขาวปี แรกสร้างเมื่อ พ.ศ.2495 ท่านครูบาได้ไปสร้างตามธรรมใบลานที่ชื่อว่า ตำนานพระเจ้าเลียบโลก ซึ่งในอดีตพระพุทธเจ้าได้เสด็จผ่านมาที่ดอยลูกนั้น และดอยลูกนั้นจึงได้ชื่อว่าดอยพระเจ้า พระพุทธเจ้าได้ทรงพักที่ดอยลูกนั้น และให้พระอานนท์ไปตักน้ำที่นำดิบต้นผึ้งมาถวายพระพุทธเจ้าเสวย แต่พระพุทธเจ้าเสวยไม่หมดพระอานนท์จึงไปเทน้ำทิ้ง ซึ่งบริเวณนั้นมีสัณฐานคล้ายบาตร ชาวลั๊วะจึงได้ไปปลูกไม้ไผ่ซางไว้บริเวณนั้นจำนวน 5 ต้น
หลังจากที่พ่อหนานสิสาได้นิมนต์ท่านครูบาเจ้าอภิไชยขาวปี ที่วัดนาเลี่ยงเพื่อมาเป็นประธานในการบูรณะปฏิสังขรณ์วิหารของวัดแม่หว่างลุ่มแล้ว ครูบาเจ้าอภิไชยขาวปีจึงได้หลีกเร้นมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ณ บริเวณกำแพงหินที่ดอยเงือกแห่งนี้ แต่ไม่นานครูบาเจ้าอภิไชยขาวปีก็อาพาธ จึงได้ย้ายไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่ดอยอีกลูก เพื่อสะดวกในการเดินทาง หลังจากที่ครูบาเจ้าอภิไชยขาวปี หายจากอาการอาพำแล้ว ญาติโยมก็ได้มานิมนต์ให้ไปเป็นประธานในการสร้างถนนระหว่างบ้านแม่หว่างไปจนถึงบ้านห้วยหญ้าไทร ซึ่งใช้ระยะเวลาสร้างเพียงแค่ 3 วันก็ทำถนนถวายได้
ต่อมา เมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2562 พระนภัส ชยธมฺโม ได้ยินพ่อหลวงอ้าย สานาบอกว่า ตอนครูบาเจ้าอภิไชยขาวปีมาพักที่ดอยเงือกแห่งนี้ ครูบาเจ้าชัยยะวงค์ศาก็ได้มาอยู่อุปฐากครูบาเจ้าอภิไชยขาวปี แล้วครูบาเจ้าชัยยะวงค์ศาก็ได้พบรอยพระพุทธบาทบริเวณตีนดอยพระเจ้า พระนภัส ชยธมฺโม จึงชวนชาวบ้านไปหาดูแต่ไม่เจอ พระนภัส ชยธมฺโมจึงบอกให้พ่อหลวงอ้ายพาไปดูกำแพงหิน ปรากฏว่าพอขึ้นมาถึงกำแพงหินก็เห็นว่าเป็นบริเวณที่ดูเงียบสงบและสัปปายะดี พอมาจนถึง วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 พระนภัส ชยธมฺโม ขึ้นไปดูอีกครั้งก็เห็นว่าสมควรที่จะเป็นอาราม จึงไปนิมนต์พระครูสุนทรอรรถการ ขึ้นมาดูสถานทีในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2563 โดยมี พระครูใบฎีกา สิงห์ทอง สีลสวโร วัดแม่หว่างลุ่ม ติดตามไปด้วย พระครูสุนทรอรรถการ ได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน โดยการสัจจะวาไม้ ( ตั้งสัจเสี่ยงทาย) ปรากฏว่าสถานที่แห่งนี้จะเกิดเป็นอารามในการเบื้องหน้า.