ผู้ว่าลำพูนลุยเอง นำทีมลงพื้นที่ลาดตระเวนตรวจป้องกันไฟป่า ในเขตอุตทยานแห่งชาติแม่ปิง
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นำทีมลงพื้นที่ลาดตระเวน ตรวจตรา ป้องกันการเกิดไฟป่าในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ทั้งเพื่อเป็นการยับยั้งการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่
เมื่อคืน ( วันที่ 11 มี.ค. 64) เวลา 21.30 น. ที่ ทุ่งกิ๊ก ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในการปล่อยแถวชุดลาดตระเวนออกตรวจตราในการป้องกันการเกิดไฟป่าในและพร้อมเข้าระงับเหตุในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง โดยมี นายวิวัฒน์ จันทร์โอภาส นายอำเภอลี้ นายมัญญา นาคพน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ปิง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ อส. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่หน่วยอาสาแม่ปิง ร่วมลงพื้นที โดยได้จัดชุดลาดตระเวนออกตรวจตรา จำนวน 3 ชุด รวม 120 นาย ทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง อำเภอลี้ ทั้งเพื่อเป็นการยับยั้งการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ โดยจะมีการแบ่งหน่วยลาดตระเวนออก ตามพื้นที่ ต่างๆ พร้อมการนำเครื่องมือ ชุดปฏิบัติการในการเข้าระงับเหตุการณ์ และควบคุมเมื่อเจอเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่ ได้อย่างทันท่วงที
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมคณะฯ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนในพื้นที่ชุมชนเรือนแพ เพื่อที่จะได้ฝากคนในชุมชนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา คอยเฝ้าระวังเหตุไฟป่าในพื้นที่ เพื่อไม่ให้ไฟป่าลุกลามและขยายออกไปเป็นวงกว้าง ซึ่งจะยากแก่การเข้าไปควบคุมไฟป่าของเจ้าหน้าที่ และได้เยี่ยมให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติการเฝ้าระวังไฟป่าในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิงอีกด้วย
สำหรับ จังหวัดลำพูน ได้ออกมาตรการห้ามเผาในที่โล่งเด็ดขาด ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองลำพูน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 สำหรับในเขตพื้นที่ อำเภอบ้านธิ อำเภอป่าซาง อำเภอแม่ทา อำเภอเวียงหนองล่อง อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอลี้ และอำเภอทุ่งหัวช้าง ห้ามเผาเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 หากพบเห็นเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ สามารถแจ้งเหตุได้ที่หมายเลข 191
ทั้งนี้ จังหวัดลำพูนจะได้มีการกำหนดมาตรการควบคุม ป้องกันไฟป่าและหมอกควันอย่างเข้มข้นขึ้น โดยหากพบเห็นผู้กระทำผิดหรือฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษอย่างร้ายแรง เพื่อเป็นการไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟป่าที่รุนแรงขึ้น โดยทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันบูรณากำหนดมาตรการเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการสร้างการรับรู้ เข้าใจ และสร้างการตระหนักรู้ถึงการ เผาป่าที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านฝุ่นละออง pm 2.5 ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชีวิต เศรษฐกิจ รวมถึงการท่องเที่ยวอีกด้วย