เก็บทรงไม่อยู่..! 1 ใน 4 ชายรุมทำร้าย รปภ.ออกอาการหลังสังคมโซเซี่ยลถล่มหนัก ยังไม่สำนึกออกมาโพสต์ท้าดวลกลุ่มโซเซี่ยลที่โพสต์ด่า

เก็บทรงไม่อยู่..! 1 ใน 4 ชายรุมทำร้าย รปภ.ออกอาการหลังโซเซี่ยลถล่มหนัก ยังไม่สำนึกออกมาโพสต์ท้าดวลกลุ่มโซเซี่ยลที่โพสต์ด่า

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ความคืบหน้าจากกรณีที่มีกลุ่มชายจำนวน 4 คน ดักทำร้ายนายอนวัช เจษฎานิติกุล อายุ 19 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย โรงพยาบาลหริภุญชัย เหตุเกิดที่ถนนด้านหลังโรงพยาบาลเมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ขณะที่นายอนวัช กำลังเลิกงานและขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ซึ่งมีพยานผู้เห็นเหตุการณ์หลายรายและมีภาพกล้องวงจรปิดชัดเจน

จนเป็นที่มาของการโพสต์ลงในสังคมโซเซี่ยลจังหวัดลำพูน และได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ถึงการกระทำที่โหดและใจร้ายที่กล้าพาพวกมาดักทำร้าย รปภ.เพียงแค่เรื่องตักเตือนไม่ให้ขับรถย้อนศร แสดงถึงวุฒิภาวะและการกระทำทำที่สังคมไม่อาจยอมรับได้ กระทั้งเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ สร้างความกดดันให้กลุ่มชายทั้ง 4 คน คิดว่าไม่รอดแน่อาจจะต้องถูกตำรวจตามล่าตัวไปดำเนินคดี กระทั่งวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหนึ่งในชายผู้ก่อเหตุได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.มรกต ศิริชัย รองผกก.สส.สภ.นิคมอุตสาหกรรม โดยได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความ และมีการนัดหมายกันเพื่อให้ไปพบพนักงานสอบสวน ร.ต.อ.วสันต์ มณีกาศ และผู้เสียหาย ในช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ผ่านมา

จนกระทั้งผลการเจรจาของทั้งสองฝ่าย สรุปว่ายอมความกัน โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และได้ทำการเปรียบเทียบปรับ ตามกฎหมาย คนละ 500 บาท รวม 2,000 บาท นอกจากนั้น กลุ่มผู้ก่อเหตุได้แก่นายภูมิภัทร อายุ 35 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 12 ตำบลทุ่งต้อม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ นายอนุพล  อายุ 34 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน นายอัฐพล  อายุ 31  ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลศรีเตี้ย อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน และนายฐาปณัฐ  อายุ 38 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลทุ่งปิ้ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้จ่ายค่าทำขวัญให้นายอนวัช คนละ 1,000 บาท รวม 4,000 บาท จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้ง 4 คนจ่ายเงินไปทั้งหมดเพียงแค่ 6,000 บาทเท่านั้น

ท่ามกลางกระแสความมึนงงและสร้างความไม่พอใจให้กับสังคมโซเซี่ยลอย่างมาก มีการโพสต์ถ้อยคำต่างๆมากมาย ส่วนมากจะด่าทอสาปแช่ง และท้าตีท้าต่อย อยากเจอชายทั้ง 4 คน ซึ่งขณะที่การเจรจาอยู่ที่ สภ.นิคมอุตสาหกรรมก็มีกลุ่มชายจำนวน 3-4 คนได้เดินทางไปที่ สภ.นิคมฯนัดหมายเรียกเพื่อนๆในโซเซี่ยล ไปเพื่อดูหน้ากลุ่มชายทั้ง 4 คน แต่เป็นจังหวะเดียวกับที่ได้เกิดฝนฟ้าคะนองตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กลุ่มคนดังกล่าวต้องล่าถอยและยกเลิกไป และการเจราใช้เวลาเพียง 30 นาทีเสร็จเรียบร้อยกลุ่มชายที่ก่อเหตุจึงรีบกลับไปในขณะที่ฝนกำลังตก ซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีของชายทั้ง 4 คนที่ก่อเหตุ หากฝนไม่ตกลงมาคาดว่าจะต้องมีเรื่องราวต่างๆตามมาอย่างแน่นอน

ทนไม่ไหว  1 ใน 4 กลุ่มชายที่ก่อเหตุ ทนกระแสโซเซี่ยลไม่ไหว ออกอาการเก็บทรงไม่อยู่ เพราะสังคมโซเซี่ยลถล่มหนัก พร้อมท้าตีท้าต่อย ส่วนหนึ่งก็ไปขุดคุ้ยประวัติและข้อมูลส่วนตัวสถานที่ทำงานของชายทั้ง 4 คนส่งให้สื่อมวลชน(ขอสงวนข้อมูล) เพื่อหวังจะให้ตีแผ่และส่งผลกระทบย้อนกลับไปหากลุ่มชายที่ก่อเหตุ แต่ผู้สื่อข่าวได้แจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเป็นสาธารณะได้ เพราะเรื่องดังกล่าวได้จบขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายไปแล้ว และทั้งสองฝ่ายตกลงจบกันไป จึงขอสงวนข้อมูลดังกล่าวเก็บไว้ เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น แต่ระหว่างนั้น 1 ใน 4 ก็สุดทนกระแสได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว(ขอปิดชื่อไว้ก่อน) โดยโพสต์ข้อความ หัวข้อแสดงออกว่า ปรึ๊ดแตก ตามด้วยข้อความว่า ไอ่พวกที่ว่าเก่งๆ ไข้เจอหยังอั้นหยังอี้ ฮาก่ไคข้เจอเหมือนกันนะ ไขบะปอใจ๋หยังบอก ฮาก่คนเหมือนกัน เหลืออดเหมือนกันนะ สูเขามันจะสักมอกใด ฮาจะรอดูไอ่หมู่อวดเก่งกำ  ซึ่งข้อความดังกล่าวได้แสดงถึงวุฒิภาวะและเสมือนหนึ่งว่ายังไม่สำนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นอาการของคนเก็บทรงไม่อยู่ ซึ่งคาดว่ากลุ่มสังคมโซเซี่ยลจะมีการขุดประวัติต่างๆออกมาเป็นระยะหากยังไม่หยุดพฤติกรรมที่แสดงออกแบบนี้ แหล่งข่าวกล่าวกับผู้สื่อข่าว